ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า
สำหรับหนังสือ Thailand’s Political Peasants: Power in the Modern Rural Economyวอล์คเกอร์เสนอว่า การเมืองของชาวนารายได้ปานกลางนั้นแตกต่างจากการเมืองของชาวนาผู้ยากไร้ในอดีตหรือชาวนาชายขอบในปัจจุบันในแง่ที่ว่า ชาวนารายได้ปานกลางไม่ได้ต่อต้านอำนาจที่มาจากภายนอก แต่ต้องการสร้างสายสัมพันธ์กับแหล่งอำนาจต่างๆที่เอื้อประโยชน์แก่ตน ไม่ว่าจะเป็นอำนาจรัฐ อำนาจของตลาด/ทุน อำนาจของผี หรืออำนาจทางศีลธรรมของชุมชน ซึ่งเป็นสี่ปริมณฑลสำคัญใน “สังคมการเมือง” แบบใหม่ที่กำลังก่อตัวขึ้นในชนบทเล่มนี้ วอล์คเกอร์ได้ศึกษาพลวัตของอำนาจในชนบท ซึ่งมีตัวแสดงหลักหน้าใหม่ที่เขาเรียกว่า “ชาวนารายได้ปานกลาง” (หรือที่นักวิชาการบางคนเรียกว่า ชนชั้นกลางใหม่ ชนชั้นกลางระดับล่าง) เกิดขึ้นและกลายเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ที่สุดในชนบทไทยปัจจุบัน

สังคมชาวนาของไทยไม่ได้สูญสลายไปตามคำทำนายของนักทฤษฎีหลายคนในศตวรรษที่20 แต่การดำรงคงอยู่ของสังคมชาวนาไทยนั้นพึ่งพาอาศัยการสนับสนุนของรัฐเป็นอย่างมาก การเปลี่ยนนโยบายด้านการคลังของรัฐจากการเรียกเก็บภาษีจากชนบทไปสู่การให้เงินอุดหนุนแก่ชนบท เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำที่อาจเป็นภัยคุกคามทางการเมืองได้นั้น มีบทบาทสำคัญในการดำรงรักษาประชากรจำนวนมากไว้ในชนบท ซึ่งแม้ว่าจะเป็นประชากรที่มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น แต่ก็ไม่มีผลิตภาพเพียงพอที่จะตอบสนองความมุ่งมาดปรารถนาต่างๆที่เกิดจากการกระตุ้นของความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ยุทธศาสตร์ทางการเมืองที่สำคัญของชาวนารายได้ปานกลางจึงอยู่ที่การเพิ่มผลิตภาพ ด้วยการดึงงบประมาณของรัฐและทุนเอกชนเข้าสู่หมู่บ้าน และการเลือกตั้งก็เป็นช่องทางสำคัญในการใช้อำนาจของพวกเขา เพื่อให้ได้มาซึ่งนโยบายและโครงการต่างๆที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและดึงทรัพยากรจากภายนอกเข้ามาพัฒนาชุมชนท้องถิ่น

พวกเขาวิจารณ์นโยบายประชานิยมของรัฐบาลทักษิณว่าส่งเสริมให้คนชนบทเกิดความคาดหวังทางเศรษฐกิจที่เกินตัว บ่อนทำลายวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชนบท ซึ่งก็สอดคล้องกับการรณรงค์ต่อต้านทุนนิยมและโลกาภิวัตน์ขององค์กรภาคประชาสังคมจำนวนหนึ่ง เศรษฐกิจพอเพียงและแนวคิดวัฒนธรรมชุมชนไม่ยอมรับความต้องการของคนชนบทที่อยากจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สะดวกสบายขึ้น อยากส่งลูกหลานเรียนมหาวิทยาลัยฯลฯ แต่ต้องการกดพวกเขาไว้ให้อยู่แบบพอเพียงในหมู่บ้าน มันจึงเป็นบทแย้งของ “สังคมการเมือง” แบบใหม่ในชนบทพลังของการเลือกตั้งทำให้ฐานต่อรองทางอำนาจเคลื่อนย้ายจากเมืองหลวงไปสู่เขตเลือกตั้งในชนบท โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคอีสานซึ่งมีสัดส่วนที่นั่งในสภาค่อนข้างมากชนชั้นนำและชนชั้นกลางเก่าพยายามทำลายความชอบธรรมของอำนาจที่มาจากการเลือกตั้งด้วยวาทกรรมเรื่องการซื้อเสียงและความ “โง่-จน-เจ็บ” ของผู้เลือกตั้งในชนบท และดึงอำนาจกลับมาอยู่ในมือชนชั้นนำเสียงข้างน้อย

แต่ถ้าความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในชนบทที่ก่อให้เกิดชาวนารายได้ปานกลางเป็นของจริง ความพยายามกดทับเสียงของชาวชนบทด้วยอำนาจจากกระบอกปืนก็คงพิสูจน์กันต่อไปว่าจะทำได้มากน้อยเพียงใดรัฐบาลหลังรัฐประหาร2549และ2557พยายามบ่อนทำลาย“สังคมการเมือง” แบบใหม่ในชนบท และพาประเทศถอยหลังย้อนกลับไปในยุครัฐราชการ

สุดท้าย สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกันขอขอบคุณแอนดรูวอล์คเกอร์ผู้เขียน และจักรกริชสังขมณีผู้แปล รวมทั้ง The University of Wisconsin Press เป็นอย่างสูงที่มอบความไว้วางใจให้เราดำเนินการแปลและจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้ออกมา

อย่างไรก็ตาม เมื่อกล่าวถึงองค์กรหรือขบวนการเคลื่อนไหวของ “civil society” ผู้แปลใช้คำว่า “ภาคประชาสังคม” เนื่องจากเป็นคำที่นิยมใช้กันจนกลายเป็นศัพท์เฉพาะไปแล้วอนึ่ง ในหนังสือเล่มนี้ผู้แปลเลือกใช้คำว่า “สังคมประชา” สำหรับการแปลคำว่า “civil society” เพื่อให้สอดรับกับคำว่า “สังคมการเมือง” (political society) ซึ่งเป็นแนวคิดสำคัญของปาร์ธา แชทเทอร์จี ที่ถูกใช้เป็นตัวเปรียบต่างของแนวคิดเรื่อง “civil society”
ชาวนาการเมือง อำนาจในเศรษฐกิจชนบทสมัยใหม่ของไทย
เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

บมจ. ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนเฟื่องนคร ออมทรัพย์
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านเคล็ดไทย
เคล็ดไทย
ร้านของเราเป็นแหล่งรวมหนังสือ วรรณกรรม ประวัติศาสตร์ ข้อมูลเพิ่มเติม www.kledthai.com
เบอร์โทร : 022259536 ถึง 9 ต่อ 11,22
อีเมล : kledthai@kledthai.co.th
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม