จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | ไม่จำกัด เล่ม |
จำนวน (เล่ม) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 เล่ม
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | หนังสือ |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ไฮไลท์ |
"นี่คือปณิธานที่หาญมุ่ง : ข้อถกเถียงว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ในองค์กรจัดทำรัฐธรรมนูญของไทย ตั้งแต่ พ.ศ. 2475-2550" เล่มนี้ เป็นผลงานของ "สมชาย ปรีชาศิลปกุล" และเป็นหนังสือเล่มที่ 3 ของ "ชุด กษัตริย์ศึกษา" ซึ่งผู้เขียนไม่เพียงแต่เข้าไป "อ่าน" รายงานการประชุมสภา/กรรมาธิการ เพื่อให้เห็นการอภิปรายและไม่อภิปรายเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับต่าง ๆ ตลอดเวลา 75 ปี (2475-2550) แต่สมชายยังชี้ให้เห็นถึงการต่อสู้ทางการเมืองที่ต่อเนื่องมาจากตั้งแต่การปฏิวัติสยาม 24 มิถุนายน 2475 มาจนถึงปัจจุบัน
และถึงแม้ว่าการศึกษาของหนังสือเล่มนี้จะจบที่รัฐธรรมนูญ 2550 แต่โดยทิศทางแล้วก็จะเห็นว่าไม่แปลกที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ที่ประกอบพระราชพิธีพระราชทานรัฐธรรมนูญ และประกาศใช้เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 จะมีเนื้อหาออกมาดังที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน หากเราจะเข้าใจสังคมไทย เราคงละเลยไม่ได้ที่จะต้องศึกษาบทบาทของสถาบันกษัตริย์ในมิติต่าง ๆ ทั้งเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และนี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งในการจัดทำหนังสือชุดกษัตริย์ศึกษาและจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้
|
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
คำนำสำนักพิมพ์ เหตุฉะนั้น ราษฎร ข้าราชการ ทหาร และพลเรือน ที่รู้เท่าถึงการกระทำอันชั่วร้ายของรัฐบาลดังกล่าวแล้ว จึงรวมกำลังตั้งเป็นคณะราษฎรขึ้น และได้ยึดอำนาจของกษัตริย์ไว้ได้แล้ว คณะราษฎรเห็นว่าการที่จะแก้ความชั่วร้ายนี้ได้ก็โดยที่จะต้องจัดการปกครองโดยมีสภา จะได้ช่วยกันปรึกษาหารือหลายๆ ความคิดดีกว่าความคิดเดียว ส่วนผู้เป็นประมุขของประเทศนั้น คณะราษฎรไม่ประสงค์ทำการแย่งชิงราชสมบัติ ฉะนั้น จึงได้อัญเชิญให้กษัตริย์องค์นี้ดำรงตำแหน่งกษัตริย์ต่อไป แต่จะต้องอยู่ใต้กฎหมายธรรมนูญการปกครองแผ่นดิน จะทำอะไรโดยลำพังไม่ได้ นอกจากด้วยความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร ก่อนวันที่ 24 มิถุนายน 2475 แทบจะไม่มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับสถานะของสถาบันกษัตริย์ในทางสาธารณะเพราะว่าพระมหากษัตริย์เป็นทั้งเทวราชา และเจ้าชีวิต คงมีแต่ข้อขัดแย้งว่าใครคนไหน หรือราชวงศ์ใดมีความชอบธรรมที่จะครองราชย์ การปฏิวัติสยาม 24 มิถุนายน 2475 จึงถือว่าเป็นหมุดหมายสำคัญที่ขีดเส้นแบ่งสถานะของสถาบันกษัตริย์ในสังคมไทย เพราะว่าการที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ตอบรับคณะราษฎรมาเป็น “พระมหากษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ” หมายความว่าหลังจากนั้นในทางนิตินัยพระมหากษัตริย์ต้องอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ ส่วนอำนาจจะมากหรือน้อยเพียงใดก็แล้วแต่รัฐธรรมนูญจะบัญญัติ
สารบัญ บทที่ 1 บทเริ่มต้น - บทส่งท้าย ฤๅเปลี่ยนผ่านสู่ปฐมบทแห่งยุค "หลังระบอบประชาธิปไตย" อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |