ไฮไลท์
"นี่คือปณิธานที่หาญมุ่ง : ข้อถกเถียงว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ในองค์กรจัดทำรัฐธรรมนูญของไทย ตั้งแต่ พ.ศ. 2475-2550" เล่มนี้ เป็นผลงานของ "สมชาย ปรีชาศิลปกุล" และเป็นหนังสือเล่มที่ 3 ของ "ชุด กษัตริย์ศึกษา" ซึ่งผู้เขียนไม่เพียงแต่เข้าไป "อ่าน" รายงานการประชุมสภา/กรรมาธิการ เพื่อให้เห็นการอภิปรายและไม่อภิปรายเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับต่าง ๆ ตลอดเวลา 75 ปี (2475-2550) แต่สมชายยังชี้ให้เห็นถึงการต่อสู้ทางการเมืองที่ต่อเนื่องมาจากตั้งแต่การปฏิวัติสยาม 24 มิถุนายน 2475 มาจนถึงปัจจุบัน
และถึงแม้ว่าการศึกษาของหนังสือเล่มนี้จะจบที่รัฐธรรมนูญ 2550 แต่โดยทิศทางแล้วก็จะเห็นว่าไม่แปลกที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ที่ประกอบพระราชพิธีพระราชทานรัฐธรรมนูญ และประกาศใช้เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 จะมีเนื้อหาออกมาดังที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน หากเราจะเข้าใจสังคมไทย เราคงละเลยไม่ได้ที่จะต้องศึกษาบทบาทของสถาบันกษัตริย์ในมิติต่าง ๆ ทั้งเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และนี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งในการจัดทำหนังสือชุดกษัตริย์ศึกษาและจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้
ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า

คำนำสำนักพิมพ์

เหตุฉะนั้น ราษฎร ข้าราชการ ทหาร และพลเรือน ที่รู้เท่าถึงการกระทำอันชั่วร้ายของรัฐบาลดังกล่าวแล้ว จึงรวมกำลังตั้งเป็นคณะราษฎรขึ้น และได้ยึดอำนาจของกษัตริย์ไว้ได้แล้ว คณะราษฎรเห็นว่าการที่จะแก้ความชั่วร้ายนี้ได้ก็โดยที่จะต้องจัดการปกครองโดยมีสภา จะได้ช่วยกันปรึกษาหารือหลายๆ ความคิดดีกว่าความคิดเดียว ส่วนผู้เป็นประมุขของประเทศนั้น คณะราษฎรไม่ประสงค์ทำการแย่งชิงราชสมบัติ ฉะนั้น จึงได้อัญเชิญให้กษัตริย์องค์นี้ดำรงตำแหน่งกษัตริย์ต่อไป แต่จะต้องอยู่ใต้กฎหมายธรรมนูญการปกครองแผ่นดิน จะทำอะไรโดยลำพังไม่ได้ นอกจากด้วยความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร
ประกาศคณะราษฎร, 24 มิถุนายน 2475

ก่อนวันที่ 24 มิถุนายน 2475 แทบจะไม่มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับสถานะของสถาบันกษัตริย์ในทางสาธารณะเพราะว่าพระมหากษัตริย์เป็นทั้งเทวราชา และเจ้าชีวิต คงมีแต่ข้อขัดแย้งว่าใครคนไหน หรือราชวงศ์ใดมีความชอบธรรมที่จะครองราชย์ การปฏิวัติสยาม 24 มิถุนายน 2475 จึงถือว่าเป็นหมุดหมายสำคัญที่ขีดเส้นแบ่งสถานะของสถาบันกษัตริย์ในสังคมไทย เพราะว่าการที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ตอบรับคณะราษฎรมาเป็น “พระมหากษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ” หมายความว่าหลังจากนั้นในทางนิตินัยพระมหากษัตริย์ต้องอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ ส่วนอำนาจจะมากหรือน้อยเพียงใดก็แล้วแต่รัฐธรรมนูญจะบัญญัติ


พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475 ซึ่งถือเป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรกของสยามในมาตรา 7 ระบุว่า “การกระทำใดๆ ของกษัตริย์ต้องมีกรรมการราษฎรผู้หนึ่งผู้ใดลงนามด้วย โดยได้รับความยินยอมของคณะกรรมการราษฎรจึ่งจะใช้ได้ มิฉะนั้น เป็นโมฆะ” ซึ่งหลักการนี้เป็นเช่นเดียวกับนานาอารยะประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตย คือหลัก The King Can Do No Wrong


นับตั้งแต่การปฏิวัติสยาม 2475 มาจนถึงปัจจุบัน (2561) ผ่านมา 86 ปี เรามีรัฐธรรมนูญแล้ว 20 ฉบับ ซึ่งมีการกำหนดบทบาทและสถานะของสถาบันกษัตริย์ในฐานะสถาบันการเมืองตามรัฐธรรมนูญที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับบริบทการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมในช่วงนั้นๆ ไม่ต่างจากรัฐสภา ครม. รูปแบบการเลือกตั้ง ฯลฯ
อย่างที่ทราบคือรัฐบาลคณะราษฎรนั้นสิ้นสุดลงเมื่อมีปฏิบัติการ “คว่ำปฏิวัติ–โค่นคณะราษฎร” โดยการรัฐประหาร 8 พฤศจิกายน 2490 แล้วแทนที่ด้วยรัฐธรรมนูญ 2490 หลังจากนั้น เราจึงได้เห็นความเปลี่ยนแปลงต่างๆ เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์มากมายในทางที่จะเพิ่ม/ขยายอำนาจของสถาบันกษัตริย์ดังปรากฏในรัฐธรรมนูญฉบับต่างๆ เริ่มจากการตีความอำนาจอธิปไตยใหม่, สถานะอันล่วงละเมิดมิได้, พระราชอำนาจในการยับยั้งกฎหมาย, การสืบราชสมบัติ ตลอดจนประดิษฐกรรมใหม่ๆ ที่ไม่เคยเจอตลอด 15 ปีแรกหลังปฏิวัติสยาม เช่น อภิรัฐมนตรี (ซึ่งต่อมาได้ปรับโฉมเป็นคณะองคมนตรี) เป็นต้น


นี่คือปณิธานที่หาญมุ่ง : ข้อถกเถียงว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ในองค์กรจัดทำรัฐธรรมนูญของไทย ตั้งแต่ พ.ศ. 2475-2550 ผลงานของสมชาย ปรีชาศิลปกุล ซึ่งเป็นหนังสือเล่มที่ 3 ของชุดกษัตริย์ศึกษา สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ไม่เพียงแต่เข้าไป “อ่าน” รายงานการประชุมสภา/กรรมาธิการ เพื่อให้เห็นการอภิปรายและไม่อภิปรายเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับต่างๆ ตลอดเวลา 75 ปี (2475-2550) สมชายยังชี้ให้เห็นถึงการต่อสู้ทางการเมืองที่ต่อเนื่องมาจากตั้งแต่การปฏิวัติสยาม 24 มิถุนายน 2475 มาจนถึงปัจจุบัน และถึงแม้ว่าการศึกษาของหนังสือเล่มนี้จะจบที่รัฐธรรมนูญ 2550 แต่โดยทิศทางแล้วก็จะเห็นว่าไม่แปลกที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ที่ประกอบพระราชพิธีพระราชทานรัฐธรรมนูญและประกาศใช้เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 จะมีเนื้อหาออกมาดังที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน


สุดท้ายเรายังยืนยันว่า หากเราจะเข้าใจสังคมไทย เราคงละเลยไม่ได้ที่จะต้องศึกษาบทบาทของสถาบันกษัตริย์ในมิติต่างๆ ทั้งเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และนี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งในการจัดทำหนังสือชุดกษัตริย์ศึกษาและตีพิมพ์หนังสือเล่มนี้

สารบัญ

บทที่ 1 บทเริ่มต้น
บทที่ 2 อำนาจอธิปไตยนั้นเป็นของราษฎรทั้งหลาย
บทที่ 3 อันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้
บทที่ 4 พระราชอำนาจวีโต้ร่างกฎหมาย
บทที่ 5 การสืบราชสมบัติภายใต้ระบอบประชาธิปไตย
บทที่ 6 จากองคมนตรีสู่สภาที่ปรึกษาในพระองค์จำแลง
บทที่ 7 ในฐานะประมุขแห่งกองทัพ
บทที่ 8 การประกอบสร้างระบอบ "อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข" ในรัฐธรรมนูญไทย

- บทส่งท้าย ฤๅเปลี่ยนผ่านสู่ปฐมบทแห่งยุค "หลังระบอบประชาธิปไตย" อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

นี่คือปณิธานที่หาญมุ่ง
เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

บมจ. ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนเฟื่องนคร ออมทรัพย์
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านเคล็ดไทย
เคล็ดไทย
ร้านของเราเป็นแหล่งรวมหนังสือ วรรณกรรม ประวัติศาสตร์ ข้อมูลเพิ่มเติม www.kledthai.com
เบอร์โทร : 022259536 ถึง 9 ต่อ 11,22
อีเมล : kledthai@kledthai.co.th
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม