รัฐฉาน: ประวัติศาสตร์และการปฏิวัติ

ในฐานะอดีตผู้สื่อข่าวที่คลุกคลีกับสถานการณ์ในพม่าไม่น้อยกว่า 15 ปี ข้าพเจ้าได้เข้าใจอุดมการณ์ทางเชื้อชาติและดวงตาที่กระหายเสรีภาพและความเป็นอิสระของเผ่าพันธุ์ชนชาติส่วนน้อยทั้งปวงในประเทศนี้ ความขัดแย้งในพม่าดำเนินมาแต่ครั้งประวัติศาสตร์ ไม่มีเค้าว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใดมีบางช่วงการสู้รบด้วยอาวุธยุติลงชั่วคราวในนามของข้อตกลงหยุดยิง แต่แล้วสงครามกลับปะทุขึ้นใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า

ความขัดแย้งในพม่าเหมือนตราบาปที่ติดตัวมาแต่กำเนิด เป็นอุปสรรคต่อพัฒนาการของมนุษย์ ดินแดนที่หลากหลายไปด้วยชาติพันธุ์ไม่อาจสร้างสมานฉันท์ร่วมกันได้หลังจากโลกหมุนออกจากสงครามคอมมิวนิสต์ความขัดแย้งในดินแดนนี้ยิ่งทวีขึ้น ไม่แต่ระหว่างชนชาติพม่ากับชนชาติส่วน้อย กระทั่งชาวพม่าด้วยกันยังแตกแยกกันเอง สาเหตุแห่งความแตกแยกขมวดปมอยู่ที่อุดมการณ์เผ่าพันธุ์นิยมของเผด็จการทหาร ความคับแคบทางอุดมการณ์ก่อให้เกิดการประหัตประหารกันระหว่างผู้คนร่วมดินแดนไม่รู้เลิกรา

รัฐฉานเป็นตัวอย่างความขัดแย้งอันเนื่องมาแต่ประวัติศาสตร์ ทั้งเป็นตัวอย่างสำคัญที่สุดของความขัดแย้งทางเชื้อชาติทั้งปวงในประเทศนี้ ด้วยว่าขบวนปฏิวัติของชาวไทยใหญ่มีอุดมการณ์แบ่งแยกประเทศ ซึ่งแตกต่างจากชนชาติอื่นที่ต้องการประชาธิปไตยและสิทธิปกครองตัวเองไฟแห่งอุดมการณ์ถูกจุดขึ้นหลักจากพม่าได้รับเอกราชจากอังกฤษและสืบทอดจากบรรพชนสู่นักปฏิวัติรุ่นใหม่

รัฐฉาน : ประวัติศาสตร์และการปฏิวัติ เล่มนี้ตีพิมพ์ออกมาเป็นครั้งที่สอง สถานการณ์ในพม่าคล้ายกำลังเปลี่ยนแปลง บางทีผู้นำทหารอาจมองเห็นความจำเป็นของความสมานฉันท์ บางทีพวกเขาอาจตระหนักว่าลัทธิเผ่าพันธุ์นิยมคือความเหลวไหลและนำพาความล่มจมมาให้เผ่าพันธุ์ทั้งมวลในดินแดนของตน กระนั้นก็ยากจะเดาว่าความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นเพียงการผ่อนสายป่านชั่วคราวหรือไม่

ขอภาวนาให้ความขัดแย้งที่หลั่งเลือดในพม่ายุติลงข้อให้ศตวรรษใหม่นำมาซึ่งความสถาพรของผู้คนในประเทศเพื่อนบ้านของเรา เพื่อเปิดศักราชใหม่สู่ครอบครัวอาเซียนที่กำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า