จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | ไม่จำกัด เล่ม |
จำนวน (เล่ม) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 เล่ม
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | หนังสือ |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
เมื่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ มีค่ากว่าหมู่บ้านกระหย่อมเดียว เรื่องราวของผู้คนในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดนอิตาลีติดกับออสเตรียและสวิตเซอร์แลนด์ ในสมัยที่ชาวบ้านยังพูดภาษาเยอรมันเพราะดินแดนแถบนี้เคยอยู่ภายใต้จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ต่อมาตกเป็นของราชอาณาจักรอิตาลี มุสโสลินีออกกฎห้ามไม่ให้ใช้ภาษาเยอรมันในสถานที่ราชการ จึงสื่อสารกับชาวบ้านด้วยภาษาที่พวกเขาไม่เข้าใจ เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังระอุก็เกณฑ์ผู้ชายไปรบ ต่อมามุสโสลินีกับฮิตเลอร์ตกลงกันว่าให้ชาวบ้านเลือกได้ว่าจะอยู่ประเทศไหนดี ไปเป็นนาซีเยอรมันช่วยท่านผู้นำกอบกู้โลก หรือเป็นฟาสซิสต์อยู่กับมุสโสลินีต่อไป สร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นระหว่างคนอยู่กับคนไป และแม้กระทั่งระหว่างพ่อกับลูกชายที่มีอุดมการณ์ต่างกัน ครั้นรัฐบาลอิตาลีสั่งให้สร้างเขื่อนในหุบเขาแห่งนี้เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้า น้ำจากเขื่อนก็ท่วมหมู่บ้านแถบนี้จนมิด เหลือเพียงหอระฆังโดดเดี่ยวเป็นหลักฐานว่า มีชีวิตของผู้คนและสัตว์จมหายไปใต้ทะเลสาบแห่งนี้ หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 “คูรอน” หมู่บ้านเล็กๆ ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ตกเป็นของราชอาณาจักรอิตาลี รัฐบาลของมุสโสลินีสั่งห้ามไม่ให้ชาวคูรอนใช้ภาษาเยอรมันในสถานที่ราชการ และห้ามไม่ให้สอนภาษานี้ในโรงเรียน
“ตรีน่า” หญิงสาวหัวดื้อผู้ใฝ่ฝันจะเป็นครู ขัดขืนคำสั่งของฟาสซิสต์ เธอแอบสอนภาษาแม่ของเธอในโรงฟางและในห้องใต้ดินของโบสถ์ ครั้นรัฐบาลอิตาลีอนุมัติให้สร้างเขื่อนที่คูรอน ตรีน่าและชาวบ้านจำนวนหนึ่งตัดสินใจจะไม่ทิ้งรากเหง้าของตนไปไหน พวกเขา หยัดยืน เช่นเดียวกับ”หอระฆังประจำหมู่บ้าน” ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่ท่ามกลางซากวัฒนธรรมที่จมหายไป
เกี่ยวกับผู้เขียน “มาร์โค บัลซาโน” (Marco Balzano) เกิดปี 1978 ที่เมืองมิลาน เป็นอาจารย์สอนวรรณกรรม เขียนนวนิยาย เรื่องสั้น บทกวี และความเรียง Resto qui (หยัดยืน) เป็นนวนิยายเรื่องที่ 4 ของเขา ได้รับรางวัลทั้งในและนอกประเทศถึง 7 รางวัล แปลและตีพิมพ์ใน 35 ประเทศ ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |